ประวัติ
เบลเฟกอลเคยเป็นเจ้าชายมาก่อนที่จะมาร่วมมืออยู่กับวาเรีย
โดยที่เบลเคยมีพี่ชายฝาแฝดอีกคนหนึ่ง แต่เบลกลับฆ่าพี่ชายตัวเอง
เพราะนึกว่าพี่ชายตัวเองเป็นแมลงสาบ!
เบลจึงรู้สึกสนุกกับการฆ่าเลยได้ไปร่วมมือกับวาเรียกลายเป็นนักฆ่าตัวฉกาจ
ที่ป็นอัจฉริยะที่สุดในกลุ่มวาเรีย
โดยที่เบลจะไล่ฆ่าผู้คนที่อยู่ตามท้องถิ่นที่ตนอยู่พบเจอใครเข้าก็จะฆ่าไม่
เลี้ยง!!! จนเขาได้รับฉายาว่า "Prince the Ripper" หรือ
เจ้าชายนักเชือดนั่นเอง ในภาคอนาคตเขาได้มาเป็นรุ่นพี่ของฟราน
สมาชิกใหม่ของวาเรียที่ไม่ค่อยเคารพรุ่นพี่ซะเท่าไหร่มักกวนโมโหเบลเป็น
ประจำ จนเบลต้องลงไม้ลงมือปามีดใส่ฟรานเสมอ
ข้อมูลส่วนตัว
อาหารที่ชอบ : ซูชิเครื่องดื่มที่ชอบ : นมคำที่ชอบพูด : เจ้าชายสิ่งที่ไม่ชอบ : คนที่ไม่เคารพฉันงานอดิเรก : ลอบสังหารคนในเมืองอายุ : 16 ปีวันเกิด : 22 ธันวาคมราศี : ราศีธนูกรุ๊ปเลือด : เอบีส่วนสูง : 170 เซนน้ำหนัก : 58 กิโลประเทศที่เกิด : อิตาลี
เทคนิคและอาวุธที่ใช้
อาวุธเบลเฟกอลมีความสามารถในการใช้มีดและลวดที่สูงมาก
เขามักจะติดลวดเอาไว้ที่ด้ามของมีดทำให้สามารถโจมตีศัตรูด้วยกลยุทธ์ที่หลาก
หลายตามแต่สถานการณ์
และยังสามารถวางตำแหน่งของลวดด้วยการขว้างมีดสร้างเครื่องมือเชือดที่มองไม่
เห็นขึ้นมาได้อาวุธกล่องมิ้งค์วายุ วิโซเน่ เทมเพสต้า
อาวุธกล่องรูปร่างตัวมิ๊งค์ที่มีพลังไฟธาตุวายุอยู่ที่หาง
ขนทั่วทั้งตัวเก็บเอาไว้ห่มกันหนาวได้
สามารถสร้างไฟธาตุวายุด้วยความร้อนที่เสียดสีระหว่างตัวเองกับวัตถุอื่นและ
หากใช้คุณสมบัติแยกสลายของธาตุวายุด้วยจะทำให้สร้างไฟไหม้ที่ขยายวงกว้างออก
ไปได้ในพริบตาท่าไม้ตายเฟรมม่า สคัลแทคต้า (เพลิงประกายแดง) เป็นท่าที่อาศัยความสามารถของมิ้งวายุก่อเกิดเปลวไฟเป็นบริเวณกว้าง มันจะไม่ดับจนกว่าจะเผาผลาญศัตรูไม่ให้เหลือซาก
บทบาท
ปฏิบัติการณ์บนเกาะมาเรเดียโวลา (พบเฉพาะในไลท์โนเวลเล่ม 2)เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเกือบหนึ่งเดือนก่อนจะเกิดศึกชิงแหวน
โดยเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นจากการบุกจู่โจมและยึดครองเกาะมาเรเดียโวลาของ
เหล่าทหารไม่ทราบสังกัด
ซึ่งพวกเขาได้จับคนบนเกาะมาเป็นตัวประกันโดยภารกิจในการช่วยเหลือตัวประกัน
ครั้งนี้อยู่ในความรับผิดชอบของออตตาวิโอหัวหน้าระดับสูงของวองโกเล่และอดีต
รองหัวหน้าของวาเรีย
เบลเฟกอลได้ออกปฏิบัติการณ์ร่วมกับสมาชิกระดับหัวหน้าที่เหลือในการบุกเข้า
จู่โจมแบบสายฟ้าแลบเพื่อช่วยเหลือตัวประกัน
เขาได้เข้าโจมตีถึงส่วนในสุดของฐานที่มั่นศัตรูร่วมกับสควอโล่และได้ฆ่า
เหล่าทหารทั้งหมดด้วยมีดและลวดอันแสนภาคภูมิใจของเขา
เบลเฟกอลมีส่วนรู้เห็นในแผนการชิงผังวงจรของโกร่ามอสก้าและการเปิดเผยความ
ชั่วร้ายของออตตาวิโอคนทรยศที่ซันซัสได้วางแผนไว้
แต่เขากลับทำเป็นไม่สนใจและปล่อยให้สควอโล่และมาม่อนผู้ดำเนินแผนการหลัก
ปฏิบัติตามสะดวกเพราะตัวเขาสนใจแต่การเชือดทหารที่ยังรอดชีวิตมากกว่าภารกิจ
ที่ในความคิดเขาคิดว่ามันไร้สาระศึกชิงแหวนธาตุวายุคู่ที่ 3ศึกนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างโกคุเดระ ฮายาโตะและเบลเฟกอล
สนามแข่งขันคือตึกเรียนชั้นบนสุดที่ถูกติดตั้งด้วยเครื่องทอร์นาโดที่มี
อานุภาพในการเป่าลมที่ร้ายแรงและการกำหนดเวลาอันจำกัดเพียง 15 นาที
ถ้าครบกำหนดเครื่องทั้งหมดบนตึกเรียนก็จะระเบิด
ในตอนแรกโกคุเดระเป็นฝ่ายหลงกลทริกเรื่องลวดกับมีดของเบลเฟกอลทำให้เป็นฝ่าย
ถูกไล่ต้อนแต่หลังจากที่แก้ทริกนั้นได้และใช้ร็อกเก็ตบอมบ์ในการโต้กลับก็ทำ
ให้เบลเฟกอลเสียสติและจู่โจมโกคุเดระอย่างบ้าเลือด
จนเมื่อโกคุเดระถูกไล่ต้อนจนถึงห้องสมุดและเบลเฟกอลใช้ทริกสร้างเครื่องมือ
เชือดที่มองไม่เห็นก็ถูกโกคุเดระแก้ทริกได้และถูกโต้กลับอย่างหนักจนไม่
สามารถลุกขึ้นได้อีก
แต่ชัยชนะที่น่าจะตกเป็นของโกคุเดระกลับถูกเบลเฟกอลแย่งไปอันเกิดมาจากช่วง
ท้ายที่โกคุเดระกำลังจะหยิบแหวนอีกครึ่งหนึ่งที่ห้อยไว้บนคอของเบลเฟกอล
เขาได้ใช้กำลังเฮือกสุดท้ายในการแย่งแหวนอีกครึ่งหนึ่งจากโกคุเดระบวกกับ
เครื่องทอร์นาโดที่เริ่มระเบิดทำให้โกคุเดระต้องจำใจทิ้งแหวนและมีชีวิต
รอดกลับไปหาพวกสึนะ ศึกนี้ชัยชนะจึงตกเป็นของเบลเฟกอลศึกชิงแหวนธาตุนภารอบสุดท้ายหลังจากที่เบลเฟกอลได้รับพิษเดธฮีธเตอร์จนขยับตัวไปไหนไม่ได้
เขาได้รับการช่วยเหลือจากซันซัสทำให้ได้แหวนธาตุวายุมาถอนพิษเป็นคนแรกและทำ
หน้าที่ในการไปชิงแหวนธาตุอื่นแต่เขาก็ถูกฮิบาริขวางไว้และทำการต่อสู้อยู่
พักหนึ่งเมื่อเห็นว่าสู้ฮิบาริไม่ได้เบลเฟกอลจึงได้หนีไป
จากนั้นเบลเฟกอลก็ได้ทำการช่วยเหลือมาม่อนและจับตัวโคลมมาไว้เป็นตัวประกัน
เพื่อเจรจาต่อรองกับโกคุเดระและยามาโมโตะจนสามารถชิงแหวนทั้งหมดไปได้
หลังจากที่ซันซัสถูกแหวนวองโกเล่ปฏิเสธ
เบลเฟกอลก็ได้นำพรรคพวกวาเรียจำนวนกว่าห้าสิบคนมาหมายเพื่อหวังปิดปากทุกคน
แต่เมื่อลันเซียเข้ามาขวางและกำจัดลูกน้องของเขาทั้งหมด
เบลเฟกอลจึงได้ยอมแพ้แก่พวกสึนะศึกยุทธศาสตร์ระหว่างวองโกเล่และมิลฟิโอเล่เบลเฟกอลได้รับหน้าที่ในการคุ้มกันทางหนีทางทิศตะวันออกร่วมกับฟราน
หลังจากที่เขาได้สังหารศัตรูได้จำนวนหนึ่งจิลหนึ่งในหกบุปผาอาลัยซึ่งเป็น
พี่ชายฝาแฝดของเขาก็ปรากฏตัว
เบลเฟกอลได้ทำการต่อสู้กับจิลแต่เนื่องจากจิลได้ใช้คลื่นความถี่ธาตุวายุที่
มองไม่เห็นของค้างคาวธาตุวายุในการโจมตีทำให้เบลเฟกอลแพ้ให้กับจิลไปอย่าง
ง่ายดายแต่โชคดีที่ฟรานได้ใช้ภาพลวงตาในการหลอกว่าเขาตายแล้ว
ทำให้เบลเฟกอลรอดชีวิตมาได้และปล่อยให้จิลไปเผชิญหน้ากับซันซัสเพราะเขาอยาก
รู้ว่าบอสหรือพี่ชายของเขาใครจะแข็งแกร่งกว่า
และสุดท้ายจิลก็พ่ายแพ้แก่ซันซัสตามที่เขาคาดไว้ศึกสุดท้ายของภาคอนาคตเบลเฟกอลได้เดินทางร่วมกับซันซัสในการนำกองกำลังเข้าช่วยเหลือพวกโกคุเด
ระที่ถูกซาคุโร่และบูลเบลจู่โจมรุมกระหนาบจนร่างกายบาดเจ็บสะบักสะบอม
เบลเฟกอล ลูสซูเลีย และเลวี่ ได้ทำการจู่โจมบูลเบลพร้อมกันแต่ก็ถูกท่า
"บาเรียน่า ออฟ เมดูซ่า" ของบูลเบลเล่นงานและถูกบูลเบลฆ่าตายในที่สุด
แต่ทว่าเบลเฟกอลและพรรคพวกที่ถูกทำร้ายกลับเป็นแค่ภาพลวงตาที่มุคุโร่และ
ฟรานสร้างขึ้น
เขาได้ร่วมมือกับกลุ่มของมุคุโร่และพวกของสึนะเข้าโจมตีหกบุปผาอาลัยที่
เหลือ
ระหว่างนั้นเบียคุรันก็ได้ส่งโกสต์เข้ามาดูดไฟของเบลเฟกอลและทุกคนที่ร่วม
สู้ในศึกนั้นจนหมดไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้อีก
สุดท้ายได้แต่ยืนนิ่งมองดูการต่อสู้ครั้งสุดท้ายระหว่างสึนะกับเบียคุรันภาคการสืบทอดมรดกเบลเฟกอลได้เข้าร่วมงานพิธีสืบทอดวองโกเล่รุ่นที่สิบอย่างเป็นทางการของ
สึนะในฐานะกลุ่มของวาเรีย หลังจากเกิดเหตุพวกชิมอนทำลายงานพิธี
เบลได้รับคำสั่งจากสควอโล่ในการเข้าช่วยเหลือแขกที่มาร่วมงาน
ก่อนถูกอาวุธของอาเดลไฮด์หนึ่งในผู้พิทักษ์แห่งปฐพีของชิมอนหยุดการเคลื่อน
ไหวเอาไว้เพื่อไม่ให้ช่วยเหลือพวกสีนะ
เบลเฟกอลเคยเป็นเจ้าชายมาก่อนที่จะมาร่วมมืออยู่กับวาเรีย
โดยที่เบลเคยมีพี่ชายฝาแฝดอีกคนหนึ่ง แต่เบลกลับฆ่าพี่ชายตัวเอง
เพราะนึกว่าพี่ชายตัวเองเป็นแมลงสาบ!
เบลจึงรู้สึกสนุกกับการฆ่าเลยได้ไปร่วมมือกับวาเรียกลายเป็นนักฆ่าตัวฉกาจ
ที่ป็นอัจฉริยะที่สุดในกลุ่มวาเรีย
โดยที่เบลจะไล่ฆ่าผู้คนที่อยู่ตามท้องถิ่นที่ตนอยู่พบเจอใครเข้าก็จะฆ่าไม่
เลี้ยง!!! จนเขาได้รับฉายาว่า "Prince the Ripper" หรือ
เจ้าชายนักเชือดนั่นเอง ในภาคอนาคตเขาได้มาเป็นรุ่นพี่ของฟราน
สมาชิกใหม่ของวาเรียที่ไม่ค่อยเคารพรุ่นพี่ซะเท่าไหร่มักกวนโมโหเบลเป็น
ประจำ จนเบลต้องลงไม้ลงมือปามีดใส่ฟรานเสมอ
ข้อมูลส่วนตัว
อาหารที่ชอบ : ซูชิเครื่องดื่มที่ชอบ : นมคำที่ชอบพูด : เจ้าชายสิ่งที่ไม่ชอบ : คนที่ไม่เคารพฉันงานอดิเรก : ลอบสังหารคนในเมืองอายุ : 16 ปีวันเกิด : 22 ธันวาคมราศี : ราศีธนูกรุ๊ปเลือด : เอบีส่วนสูง : 170 เซนน้ำหนัก : 58 กิโลประเทศที่เกิด : อิตาลี
เทคนิคและอาวุธที่ใช้
อาวุธเบลเฟกอลมีความสามารถในการใช้มีดและลวดที่สูงมาก
เขามักจะติดลวดเอาไว้ที่ด้ามของมีดทำให้สามารถโจมตีศัตรูด้วยกลยุทธ์ที่หลาก
หลายตามแต่สถานการณ์
และยังสามารถวางตำแหน่งของลวดด้วยการขว้างมีดสร้างเครื่องมือเชือดที่มองไม่
เห็นขึ้นมาได้อาวุธกล่องมิ้งค์วายุ วิโซเน่ เทมเพสต้า
อาวุธกล่องรูปร่างตัวมิ๊งค์ที่มีพลังไฟธาตุวายุอยู่ที่หาง
ขนทั่วทั้งตัวเก็บเอาไว้ห่มกันหนาวได้
สามารถสร้างไฟธาตุวายุด้วยความร้อนที่เสียดสีระหว่างตัวเองกับวัตถุอื่นและ
หากใช้คุณสมบัติแยกสลายของธาตุวายุด้วยจะทำให้สร้างไฟไหม้ที่ขยายวงกว้างออก
ไปได้ในพริบตาท่าไม้ตายเฟรมม่า สคัลแทคต้า (เพลิงประกายแดง) เป็นท่าที่อาศัยความสามารถของมิ้งวายุก่อเกิดเปลวไฟเป็นบริเวณกว้าง มันจะไม่ดับจนกว่าจะเผาผลาญศัตรูไม่ให้เหลือซาก
บทบาท
ปฏิบัติการณ์บนเกาะมาเรเดียโวลา (พบเฉพาะในไลท์โนเวลเล่ม 2)เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเกือบหนึ่งเดือนก่อนจะเกิดศึกชิงแหวน
โดยเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นจากการบุกจู่โจมและยึดครองเกาะมาเรเดียโวลาของ
เหล่าทหารไม่ทราบสังกัด
ซึ่งพวกเขาได้จับคนบนเกาะมาเป็นตัวประกันโดยภารกิจในการช่วยเหลือตัวประกัน
ครั้งนี้อยู่ในความรับผิดชอบของออตตาวิโอหัวหน้าระดับสูงของวองโกเล่และอดีต
รองหัวหน้าของวาเรีย
เบลเฟกอลได้ออกปฏิบัติการณ์ร่วมกับสมาชิกระดับหัวหน้าที่เหลือในการบุกเข้า
จู่โจมแบบสายฟ้าแลบเพื่อช่วยเหลือตัวประกัน
เขาได้เข้าโจมตีถึงส่วนในสุดของฐานที่มั่นศัตรูร่วมกับสควอโล่และได้ฆ่า
เหล่าทหารทั้งหมดด้วยมีดและลวดอันแสนภาคภูมิใจของเขา
เบลเฟกอลมีส่วนรู้เห็นในแผนการชิงผังวงจรของโกร่ามอสก้าและการเปิดเผยความ
ชั่วร้ายของออตตาวิโอคนทรยศที่ซันซัสได้วางแผนไว้
แต่เขากลับทำเป็นไม่สนใจและปล่อยให้สควอโล่และมาม่อนผู้ดำเนินแผนการหลัก
ปฏิบัติตามสะดวกเพราะตัวเขาสนใจแต่การเชือดทหารที่ยังรอดชีวิตมากกว่าภารกิจ
ที่ในความคิดเขาคิดว่ามันไร้สาระศึกชิงแหวนธาตุวายุคู่ที่ 3ศึกนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างโกคุเดระ ฮายาโตะและเบลเฟกอล
สนามแข่งขันคือตึกเรียนชั้นบนสุดที่ถูกติดตั้งด้วยเครื่องทอร์นาโดที่มี
อานุภาพในการเป่าลมที่ร้ายแรงและการกำหนดเวลาอันจำกัดเพียง 15 นาที
ถ้าครบกำหนดเครื่องทั้งหมดบนตึกเรียนก็จะระเบิด
ในตอนแรกโกคุเดระเป็นฝ่ายหลงกลทริกเรื่องลวดกับมีดของเบลเฟกอลทำให้เป็นฝ่าย
ถูกไล่ต้อนแต่หลังจากที่แก้ทริกนั้นได้และใช้ร็อกเก็ตบอมบ์ในการโต้กลับก็ทำ
ให้เบลเฟกอลเสียสติและจู่โจมโกคุเดระอย่างบ้าเลือด
จนเมื่อโกคุเดระถูกไล่ต้อนจนถึงห้องสมุดและเบลเฟกอลใช้ทริกสร้างเครื่องมือ
เชือดที่มองไม่เห็นก็ถูกโกคุเดระแก้ทริกได้และถูกโต้กลับอย่างหนักจนไม่
สามารถลุกขึ้นได้อีก
แต่ชัยชนะที่น่าจะตกเป็นของโกคุเดระกลับถูกเบลเฟกอลแย่งไปอันเกิดมาจากช่วง
ท้ายที่โกคุเดระกำลังจะหยิบแหวนอีกครึ่งหนึ่งที่ห้อยไว้บนคอของเบลเฟกอล
เขาได้ใช้กำลังเฮือกสุดท้ายในการแย่งแหวนอีกครึ่งหนึ่งจากโกคุเดระบวกกับ
เครื่องทอร์นาโดที่เริ่มระเบิดทำให้โกคุเดระต้องจำใจทิ้งแหวนและมีชีวิต
รอดกลับไปหาพวกสึนะ ศึกนี้ชัยชนะจึงตกเป็นของเบลเฟกอลศึกชิงแหวนธาตุนภารอบสุดท้ายหลังจากที่เบลเฟกอลได้รับพิษเดธฮีธเตอร์จนขยับตัวไปไหนไม่ได้
เขาได้รับการช่วยเหลือจากซันซัสทำให้ได้แหวนธาตุวายุมาถอนพิษเป็นคนแรกและทำ
หน้าที่ในการไปชิงแหวนธาตุอื่นแต่เขาก็ถูกฮิบาริขวางไว้และทำการต่อสู้อยู่
พักหนึ่งเมื่อเห็นว่าสู้ฮิบาริไม่ได้เบลเฟกอลจึงได้หนีไป
จากนั้นเบลเฟกอลก็ได้ทำการช่วยเหลือมาม่อนและจับตัวโคลมมาไว้เป็นตัวประกัน
เพื่อเจรจาต่อรองกับโกคุเดระและยามาโมโตะจนสามารถชิงแหวนทั้งหมดไปได้
หลังจากที่ซันซัสถูกแหวนวองโกเล่ปฏิเสธ
เบลเฟกอลก็ได้นำพรรคพวกวาเรียจำนวนกว่าห้าสิบคนมาหมายเพื่อหวังปิดปากทุกคน
แต่เมื่อลันเซียเข้ามาขวางและกำจัดลูกน้องของเขาทั้งหมด
เบลเฟกอลจึงได้ยอมแพ้แก่พวกสึนะศึกยุทธศาสตร์ระหว่างวองโกเล่และมิลฟิโอเล่เบลเฟกอลได้รับหน้าที่ในการคุ้มกันทางหนีทางทิศตะวันออกร่วมกับฟราน
หลังจากที่เขาได้สังหารศัตรูได้จำนวนหนึ่งจิลหนึ่งในหกบุปผาอาลัยซึ่งเป็น
พี่ชายฝาแฝดของเขาก็ปรากฏตัว
เบลเฟกอลได้ทำการต่อสู้กับจิลแต่เนื่องจากจิลได้ใช้คลื่นความถี่ธาตุวายุที่
มองไม่เห็นของค้างคาวธาตุวายุในการโจมตีทำให้เบลเฟกอลแพ้ให้กับจิลไปอย่าง
ง่ายดายแต่โชคดีที่ฟรานได้ใช้ภาพลวงตาในการหลอกว่าเขาตายแล้ว
ทำให้เบลเฟกอลรอดชีวิตมาได้และปล่อยให้จิลไปเผชิญหน้ากับซันซัสเพราะเขาอยาก
รู้ว่าบอสหรือพี่ชายของเขาใครจะแข็งแกร่งกว่า
และสุดท้ายจิลก็พ่ายแพ้แก่ซันซัสตามที่เขาคาดไว้ศึกสุดท้ายของภาคอนาคตเบลเฟกอลได้เดินทางร่วมกับซันซัสในการนำกองกำลังเข้าช่วยเหลือพวกโกคุเด
ระที่ถูกซาคุโร่และบูลเบลจู่โจมรุมกระหนาบจนร่างกายบาดเจ็บสะบักสะบอม
เบลเฟกอล ลูสซูเลีย และเลวี่ ได้ทำการจู่โจมบูลเบลพร้อมกันแต่ก็ถูกท่า
"บาเรียน่า ออฟ เมดูซ่า" ของบูลเบลเล่นงานและถูกบูลเบลฆ่าตายในที่สุด
แต่ทว่าเบลเฟกอลและพรรคพวกที่ถูกทำร้ายกลับเป็นแค่ภาพลวงตาที่มุคุโร่และ
ฟรานสร้างขึ้น
เขาได้ร่วมมือกับกลุ่มของมุคุโร่และพวกของสึนะเข้าโจมตีหกบุปผาอาลัยที่
เหลือ
ระหว่างนั้นเบียคุรันก็ได้ส่งโกสต์เข้ามาดูดไฟของเบลเฟกอลและทุกคนที่ร่วม
สู้ในศึกนั้นจนหมดไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้อีก
สุดท้ายได้แต่ยืนนิ่งมองดูการต่อสู้ครั้งสุดท้ายระหว่างสึนะกับเบียคุรันภาคการสืบทอดมรดกเบลเฟกอลได้เข้าร่วมงานพิธีสืบทอดวองโกเล่รุ่นที่สิบอย่างเป็นทางการของ
สึนะในฐานะกลุ่มของวาเรีย หลังจากเกิดเหตุพวกชิมอนทำลายงานพิธี
เบลได้รับคำสั่งจากสควอโล่ในการเข้าช่วยเหลือแขกที่มาร่วมงาน
ก่อนถูกอาวุธของอาเดลไฮด์หนึ่งในผู้พิทักษ์แห่งปฐพีของชิมอนหยุดการเคลื่อน
ไหวเอาไว้เพื่อไม่ให้ช่วยเหลือพวกสีนะ